ฝึกแนวคิดเชิงคำนวณ Code.org

Post Views: 100

เมนูวิชาวิทยาการคำนวณ ม.4

การใช้เครื่องมือจำลองแนวคิด (No-Code Programming) เพื่อสร้างความเข้าใจในตรรกะการเขียนโปรแกรม
       การเขียนโปรแกรมอาจดูซับซ้อนสำหรับผู้เริ่มต้น แต่เครื่องมือจำลองแนวคิดหรือที่เรียกว่า No-Code Programming จะช่วยให้คุณเรียนรู้หลักการและตรรกะการทำงานของโปรแกรมได้อย่างง่ายดาย โดยไม่จำเป็นต้องเขียนโค้ดที่ยุ่งยาก เครื่องมือเหล่านี้มักใช้การลากและวางบล็อกคำสั่ง (Block-based Programming) ทำให้เห็นภาพขั้นตอนการทำงานของโปรแกรมได้ชัดเจน

ทำไมต้องใช้เครื่องมือจำลองแนวคิด?
– เข้าใจตรรกะง่ายขึ้น: แทนที่จะกังวลเรื่องไวยากรณ์ของภาษาโปรแกรม คุณจะมุ่งเน้นไปที่การคิดเชิงตรรกะและการเรียงลำดับขั้นตอนเพื่อแก้ปัญหา
– เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น: ช่วยลดความกลัวในการเขียนโค้ดและสร้างความมั่นใจในการเรียนรู้
– เห็นผลลัพธ์ทันที: เมื่อจัดเรียงบล็อกคำสั่ง คุณสามารถรันโปรแกรมและเห็นผลลัพธ์ได้ทันที ทำให้เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างคำสั่งและผลลัพธ์
– พัฒนาทักษะการแก้ปัญหา: การออกแบบโปรแกรมด้วยบล็อกคำสั่งเป็นการฝึกคิดวิเคราะห์และแก้ปัญหาเป็นขั้นตอน
– พื้นฐานสู่การเขียนโค้ดจริง: เมื่อเข้าใจตรรกะและแนวคิดพื้นฐานแล้ว การเปลี่ยนไปเรียนรู้ภาษาโปรแกรมจริงจะทำได้ง่ายขึ้นมาก

เครื่องมือจำลองแนวคิดยอดนิยม นี่คือตัวอย่างเครื่องมือจำลองแนวคิดที่คุณสามารถนำมาใช้ฝึกฝนได้:
1.Scratch: พัฒนาโดย MIT Media Lab เป็นเครื่องมือที่นิยมมากสำหรับการเรียนรู้การเขียนโปรแกรมสำหรับเด็กและผู้เริ่มต้น ด้วยการลากและวางบล็อกคำสั่งเพื่อสร้างภาพเคลื่อนไหว เกม หรือเรื่องราวแบบโต้ตอบได้ Scratch ช่วยให้ผู้ใช้เข้าใจแนวคิดการวนซ้ำ (loops), เงื่อนไข (conditionals), ตัวแปร (variables) และเหตุการณ์ (events) ได้เป็นอย่างดี
  – จุดเด่น: ใช้งานง่าย มีชุมชนขนาดใหญ่ มีทรัพยากรการเรียนรู้เยอะ
  – เหมาะสำหรับ: ผู้เริ่มต้นทุกวัย, การสร้างเกมง่าย ๆ, แอนิเมชัน, เรื่องราวแบบโต้ตอบ

2.Flowgorithm: เป็นโปรแกรมที่ใช้สร้างผังงาน (Flowchart) เพื่อจำลองการทำงานของอัลกอริทึม คุณสามารถสร้างผังงานเพื่อแสดงลำดับขั้นตอนการทำงานของโปรแกรมได้ โดยไม่ต้องเขียนโค้ดจริง ๆ และ Flowgorithm ยังสามารถแปลงผังงานที่คุณสร้างขึ้นเป็นโค้ดในภาษาโปรแกรมต่าง ๆ ได้อีกด้วย
  – จุดเด่น: เน้นการสร้างผังงาน, เข้าใจลำดับขั้นตอนการทำงานของโปรแกรมได้ดี, สามารถแปลงเป็นโค้ดภาษาอื่นได้
  – เหมาะสำหรับ: ผู้ที่ต้องการเรียนรู้การออกแบบอัลกอริทึมและการเขียนผังงาน

3.Blockly: เป็นไลบรารีของ Google ที่ช่วยให้คุณสร้างเครื่องมือการเขียนโปรแกรมแบบบล็อกได้เอง คล้ายกับ Scratch แต่มีความยืดหยุ่นสูงกว่า เนื่องจากสามารถปรับแต่งบล็อกคำสั่งให้เข้ากับความต้องการเฉพาะได้ Blockly มักถูกนำไปใช้ในแพลตฟอร์มการศึกษาต่างๆ เช่น Code.org
  – จุดเด่น: ยืดหยุ่นสูง, สามารถปรับแต่งได้, ใช้ในการสร้างแพลตฟอร์มการเรียนรู้
  – เหมาะสำหรับ: นักพัฒนาที่ต้องการสร้างเครื่องมือการเขียนโปรแกรมแบบบล็อก, แพลตฟอร์มการศึกษา

4.Code.org: แม้จะไม่ใช่เครื่องมือโดยตรง แต่ Code.org เป็นแพลตฟอร์มการเรียนรู้ที่ใช้ Blockly เป็นหลักในการสอนการเขียนโปรแกรมเบื้องต้นผ่านบทเรียนแบบเกม ตัวต่อ และกิจกรรมต่าง ๆ มีหลักสูตรสำหรับทุกระดับชั้นตั้งแต่ประถมจนถึงมัธยมปลาย
  – จุดเด่น: บทเรียนสนุก, มีหลักสูตรหลากหลาย, ครอบคลุมหลายแนวคิด
  – เหมาะสำหรับ: ผู้เริ่มต้นที่ต้องการเรียนรู้ผ่านกิจกรรมแบบเกม

เรียนรู้แนวคิดเชิงคำนวณเบื้องต้น และฝึกกระบวนการคิดเชิงคำนวณด้วย Code.org
Link https://studio.code.org/users/sign_in
ฝึก Coding https://studio.code.org/hoc/1

https://docs.google.com/document/d/1AJstAFBds7W6g-ANWuCwmpOhXkx6hc4caytON2I7-2w/edit?pli=1&tab=t.0

แบบทดสอบ – Hour of Code – Blockly กับ Angry Bird Maze

ร่วมสะท้อนความคิด